วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

หน่วยที่ 3 การแสดงผลงานในงานด้านธุรกิจ

3.1 โปรแกรมที่นิยมใช้ในเชิงธุรกิจ




         โปรแกรมต่างๆ ที่นิยมใช้ในเชิงธุรกิจ ลองไปดูกันว่ามีโปรแกรมอะไรบ้าง สำหรับผู้ที่กำลังเริ่มต้นกิจการลองดูว่ามีโปรแกรมไหนที่เหมาะกับคุณบ้าง





- โปรแกรม SPSS เป็นโปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ เช่น ลูกค้าเข้าร้านจำนวนกี่คน เป็นผู้ชายกี่คน เป็นผู้หญิงกี่คน เข้าเวลากี่โมง ถ้าเป็นธุรกิจขนาดเล็กอาจจะสามารถที่จะจดบันทึกและวิเคราะห์ด้วยตัวเองได้ แต่เมื่อวันใดที่กิจการขยายตัวขึ้นหรือในองค์กรใหญ่ๆ ที่มีข้อมูลจำนวนมาก และต้องการการวิเคราะห์ที่แม่นยำ วิเคราะห์ได้ในหลายๆ มิติ เพื่อนำผลการวิเคราะห์มาใช้ประโยชน์ในเชิงลึกคงต้องพึ่งพาโปรแกรมตัวนี้




- โปรแกรม Adobe Premiere Pro เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอ โปรแกรมตัดต่อวิดีโอมีให้เลือกใช้ค่อนข้างเยอะ แต่ที่แนะนำโปรแกรม Adobe Premiere Pro เนื่องจากมีผู้ใช้ค่อนข้างเยอะ และก่อนหน้านี้มีการบรรจุอยู่ในหลักสูตรการเรียนการสอน มีปลั๊กอินที่หลากหลาย หาใช้ได้ค่อนข้างง่ายตามอินเทอร์เน็ต




- โปรแกรม Final Cut Pro เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอเช่นกัน แต่เป็นโปรแกรมเฉพาะสำหรับเครื่อง Mac หรือระบบปฏิบัติ OS X ซึ่งในเครื่อง iMac หรือ Macbook จะมีโปรแกรมตัดต่อวิดีโอให้ใช้อยู่เหมือนกันคือ iMovie เป็นโปรแกรมที่ใช้งานได้ง่าย แต่ถ้าต้องการตัดต่อในระดับมืออาชีพ หรือต้องการความหลากหลายในงานตัดต่อคงต้องใช้ Final Cut Pro



- โปรแกรม AutoCad เป็นโปรแกรมการออกแบบทางด้านวิศวกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย สามารถออกแบบได้ทั้งงาน 2 มิติ และ 3 มิติ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะนิยมใช้ในการออกแบบแปลน 2 มิติ



- โปรแกรม Solid Work
เป็นโปรแกรมออกแบบทางวิศวกรรมเช่นกัน แต่เป็นการออกแบบในลักษณะของงาน 3 มิติ เช่น ออกแบบชิ้นงานทางวิศวกรรมที่ต้องการเห็นขนาดและมิติต่างๆ รอบด้าน




- โปรแกรม Adobe Audition เป็นโปรแกรมเกี่ยวกับเสียง เช่น ตัดต่อเสียง หรือสร้างซาวน์เอ็ฟเฟ็กต์ต่างๆ เป็นโปรแกรมที่นิยมใช้งานงานวิทยุและโฆษณา



- โปรแกรม Pro Tools เป็นโปรแกรมตัดต่อและจัดการเสียงเช่นกัน แต่เป็นโปรแกรมสำหรับระบบปฏิบัติการ OS X หรือเครื่อง Mac



- โปรแกรม Microsoft Publisher เป็นโปรแกรมออกแบบสิ่งพิมพ์ เช่น แผ่นพับ โบร์ชัวร์ ที่ใช้งานได้ค่อนข้างง่าย มีรูปแบบสำเร็จรูปให้ใช้งาน เหมาะสำหรับบริษัท ห้างร้าน หรือแม้แต่ผู้ที่รับออกแบบผลิตสิ่งพิมพ์



- โปรแกรม Dreamweaver เป็นโปรแกรมสำหรับสร้างเว็บไซต์ที่สามารถสร้างเว็บไซต์ได้อย่างอิสระ ไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องการเขียนโค้ดมากนักก็สามารถที่จะใช้งานได้


โปรแกรม Joomla / Wordpress เป็น CMS หรือโปรแกรมในการสร้างเว็บไซต์ที่ง่ายและสะดวกกว่าการใช้ Dreamweaver เหมาะสำหรับการทำเว็บไซต์ทั่วๆ ไป หรือสำหรับผู้เริ่มต้น แต่ถ้ามีความชำนาญก็สามารถที่จะแก้ไขดัดแปลงโค้ดหรือปรับเปลี่ยนรูปแบบของเว็บได้อย่างอิสระ



- โปรแกรม Photoshop / illustrator น่าจะเป็นโปรแกรมที่ค่อนข้างคุ้นหู และมีอยู่ในคอมพิวเตอร์ของหลายๆ คน ซึ่ง Photoshop จะเป็นโปรแกรมที่มีความสามารถในการตกแต่งภาพ ส่วนโปรแกรม illustrator จะมีความสามารถในการสร้างภาพ หรือออกแบบภาพ

แหล่งที่มาอ้างอิง: http://www.thaiload.com/newsdetail.asp?id=1449


3.2 โปรแกรมที่ช่วยในการแสดงผลงานด้านธุรกิจ

โปรแกรมประยุกต์




ความหมายของโปรแรมประยุกต์
           โปรแกรมประยุกต์ คือ โปรแกรมที่มีความสามารถจัดการกับงานเฉพาะด้านโดยตัวโปรแกรมจะเหมาะสมและใช้งานได้ดีกับงานเฉพาะนั้น ๆ เท่านั้น โปรแกรมประยุกต์เหล่านนั้น เช่น โปรแกรมไมโครซอฟเวิร์ด โปรแกมไมโครซอฟต์เอกซ์เซล โปรแกรมไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยต์ โปรแกรมประเภทเกมส์ต่าง ๆ เป็นต้น






            โปรแกรมประยุกต์หรือ applications เพื่่อนำมาติดตั้งในคอมพิวเตอร์ ช่วยเพิ่มความสามารถให้คอมพิวเตอร์สามารถทำงานหรือใช้ช่วยงานต่างๆ ได้มากขึ้น

                โปรแกรมประยุกต์หรือแอพลิเคชัน (Application) เป็นโปรแกรมที่ทำงานเฉพาะทาง มีให้เลือก ใช้มากมาย แล้วแต่โปรแกรมเมอร์หรือผู้สร้างโปรแกรมจะสร้างขึ้นมาเพื่อใช้งานด้านใด
โปรแกรมประยุกต์มีทั้งโปรแกรมที่ต้องซื้อหรือให้ใช้ฟรี (Freeware) หรือเป็นโปรแกรมที่ให้ใช้ ได้เพียงบางส่วน (Shareware) หรืออาจเป็นโปรแกรมให้ทดลองใช้ภายในระยะเวลาที่กำหนด (Trial)

ตรวจสอบโปรแกรมในเครื่อง
เมื่อติดตั้งโอเอส Windows XP หรือ Vista เสร็จแล้ว ถ้าคลิกปุ่ม Start>>All Programs ก็จะ พบว่ายังไม่มีโปรแกรมใดๆ จะมีก็แต่โปรแกรม Windows และโปรแกรมเสริมเท่านั้นซึ่งไม่สามารถใช้งาน จริงได้
1. ยังไม่ได้ติดตั้งโปรแกรมประยุกต์ลงไปจึงมีเพียงโปรแกรมเสริมของ Windows XP เท่านั้น
2. ยังไม่ได้ติดตั้งโปรแกรมประยุกต์ลงไปจึงมีเพียงโปรแกรมเสริมของ Windows Vista เท่านั้น
3. แต่ถ้ามีการลงโปรแกรมแล้ว รายชื่อโปรแกรมก็จะมีมากกว่าโปรแกรมมาตรฐานที่ถูกติดตั้งลง เครื่องพร้อมกับการติดตั้ง Windows XP หรือ Vista

ประเภทของโปรแกรมประยุกต์
สำหรับตัวอย่างโปรแกรมต่างๆ อาจแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ตามลักษณะของโปรแกรมได้ดังนี้
1. โปรแกรมด้านฐานข้อมูล เป็นโปรแกรมช่วยจัดการกับข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บ การค้นหา การจัดเรียง การจัดทำรายงานจากข้อมูล ส่วนมากจะใช้โปรแกรมประเภทนี้เก็บข้อมูลสินค้า เก็บรายชื่อลูกค้า เป็นต้น ตัวอย่างโปรแกรมประเภทนี้เช่น dBASE, Foxbase, Foxpro, Access, Oracle (dBASE , Foxbase, Access หรือ MySQL อาจใช้ในหน่วยงานที่มีขนาดเล็ก ส่วน Oracle, SQL จะใช้ในหน่วยงาน ที่มีขนาดใหญ่ มีสาขาทั่วประเทศ)

2. โปรแกรมด้านกราฟิก เป็นโปรแกรมสำหรับงานออกแบบกราฟิก ไม่ว่าจะเป็นการวาดภาพ ออก แบบภาพ ออกแบบตัวหนังสือ โลโก้ เครื่องหมายการค้า รูปภาพสัญลักษณ์ต่างๆ ตัวอย่างโปรแกรมประเภท นี้ เช่น CorelDRAW, Illustrator, Freehand

3. โปรแกรมออกแบบภาพ 3 มิติ(3D) และสร้างภาพเคลื่อนไหวเป็นโปรแกรมสำหรับออกแบบ สิ่งของต่างๆ บ้าน รถ เครื่องใช้ ภาพที่ได้ค่อนข้างเหมือนจริงและอาจสร้างภาพเคลื่อนไหวสำหรับงานโฆษณา งานนำเสนอข้อมูล หรืออาจสร้างเป็นภาพยนต์ ตัวอย่างโปรแกรมประเภทนี้เช่น Auto CAD, 3D Studio, Light wave, Maya เป็นต้น

4. โปรแกรมด้านมัลติมิเดีย เป็นโปรแกรมสำหรับการสร้างงานประเภทมัลติมิเดียหรือสื่อที่ผสม กันหลายอย่าง มีทั้งภาพ สี เสียง ภาพเคลื่อนไหว ช่วยให้สื่อมีความน่าสนใจมากกว่าสื่อแบบอื่นๆ ส่วนมาก จะใช้ในการนำเสนอข้อมูล งานโฆษณา การสร้างโปรแกรมช่วยสอนวิชาต่าง ๆ ตัวอย่างโปรแกรมประเภทนี้ เช่น Authorware, Toolbook, Director, Flash

5. โปรแกรมด้านเสียงและการดนตรี เป็นโปรแกรมสำหรับนักดนตรี สามารถสร้างเสียง บันทึก เสียง ผสมเสียงเข้าด้วยกัน ปรับแต่งเสียง แต่งทำนองเพลงด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ ตัวอย่างโปรแกรม ประเภทนี้ เช่น Sound Forge, Winamp, Real Audio, Cakewalk, Sound Recorder ฯลฯ

6. โปรแกรมด้านการสื่อสารเป็นโปรแกรมช่วยในการสื่อสารด้วยคอมพิวเตอร์ อาจเป็นการส่งอีเมล์ รับส่งแฟ็กซ์ รับส่งข้อมูล ตัวอย่างโปรแกรมประเภทนี้ เช่น Winfax Pro, PC Anywhere

7. โปรแกรมด้านการพิมพ์เอกสารและจัดเตรียมเอกสาร เป็นโปรแกรมช่วยในการพิมพ์และจัด เตรียมเอกสารต่างๆ อาจจะจัดทำเป็นรายงาน หนังสือ บทความ ทำใบปลิว ประกาศ ตัวอย่างโปรแกรม ประเภทนี้ เช่น Microsoft Word, PageMaker, Microsoft Publisher

8. โปรแกรมด้านการตกแต่งภาพ เป็นโปรแกรมสำหรับงานตกแต่งภาพต่างๆ สำหรับนำไปใช้ ประกอบในหนังสือหรือปกหนังสือ โฆษณา ตกแต่งภาพถ่าย ตัวอย่าง โปรแกรมประเภทนี้ เช่น Photoshop, Corel Photo-Paint

9. โปรแกรมด้านงานคำนวณ เป็นโปรแกรมช่วยในการคำนวณ การคำนวณด้านภาษี สถิติ รายรับ รายจ่าย ดาราศาสตร์ วิทยาศาสตร์ การเงิน การธนาคาร งบดุล ฯลฯ ตัวอย่างโปรแกรมประเภทนี้ เช่น MS. Excel, Lotus 1-2-3, Calc

10. โปรแกรมสำหรับสร้างโปรแกรมประยุกต์ เป็นโปรแกรมไว้สร้างโปรแกรมต่างๆ จากที่ได้ กล่าวมาแล้วข้างต้น กรณีที่คุณเห็นว่าการใช้งานต่างๆ ยังไม่ถูกใจ ก็อาจจะสร้างขึ้นมาเองให้ตรงกับความ ต้องการมากที่สุด ส่วนมากจะนำไปใช้สร้างโปรแกรมเฉพาะด้าน เช่น โปรแกรมด้านบัญชี การจัดเก็บข้อมูล โปรแกรมช่วยบริหารงานต่างๆ ตัวอย่าง โปรแกรมประเภทนี้ เช่น Visual Basic, C++, C, Pascal เป็นต้น

11. โปรแกรมสำหรับการนำเสนอข้อมูล เป็นโปรแกรมสำหรับงานนำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นการราย งานข้อมูลในที่ประชุม การรายงานหน้าชั้นเรียน การบรรยายของวิทยากร ตัวอย่างโปรแกรมประเภทนี้ เช่น PowerPoint, Freelance Graphics, Impress

12. โปรแกรมสำหรับสร้างเว็บเซิร์ฟเวอร์ เป็นโปรแกรมสำหรับสร้างเว็บเซิร์ฟเวอร์ เพื่อให้บริการ อินเตอร์เน็ตหรืออินทราเน็ต ตัวอย่างโปรแกรมประเภทนี้ เช่น Linux, Appserv, IIS หรือ Apache

13. โปรแกรมตรวจฆ่าไวรัส เป็นโปรแกรมช่วยตรวจฆ่าไวรัส ตัวอย่างโปรแกรมประเภทนี้ เช่น Norton Anti Virus, Macafee Virus Scan , Dr. Solomon, AntiVir, AVG

14. โปรแกรมสารพัดประโยชน์ เป็นโปรแกรมช่วยงานต่างๆ ตรวจซ่อมข้อมูล ซ่อมระบบ บีบอัด ข้อมูล ตัวอย่างโปรแกรมประเภทนี้ เช่น Norton Utilities, Winzip ฯลฯ

15. โปรแกรมสำหรับระบบเครือข่าย เป็นโปรแกรมสำหรับใช้ในระบบเครือข่ายหรือระบบเน็ต เวิร์คคอมพิวเตอร์ ตัวอย่างโปรแกรมประเภทนี้ เช่น Wingate, Ishare

16. โปรแกรมเว็บบราวเซอร์ เป็นโปรแกรมสำหรับท่องอินเตอร์เน็ต ค้นหาข้อมูล ดูข้อมูลในเว็บ ไซต์ต่างๆ เช่น Internet Explorer, Firefox


โปรแกรมประยุกต์ที่นิยมใช้ในงานธุรกิจ

            ซอฟต์แวร์ประยุกต์(application software) เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้กับงานด้านต่าง ๆ ตามความต้องการของผู้ใช้ ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้โดยตรง ปัจจุบันมีผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ใช้งานทางด้านต่าง ๆ ออกจำหน่ายมาก การประยุกต์งานคอมพิวเตอร์จึงกว้างขวางและแพร่หลาย เราอาจแบ่งซอฟต์แวร์ประยุกต์ออกเป็นสองกลุ่มคือ ซอฟต์แวร์สำเร็จ และซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นใช้งานเฉพาะ ซอฟต์แวร์สำเร็จในปัจจุบันมีมากมาย เช่น ซอฟต์แวร์ประมวลคำ ซอฟต์แวร์ตารางทำงาน ฯลฯ


ซอฟต์แวร์ประยุกต์ทั่วไป

             ซอฟแวร์ประยุกต์ทั่วไป (general purpose software) เป็นซอฟแวร์ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับงานให้เหมาะสมกับลักษณะงานของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ เช่น การจัดพิมพ์รายงาน การนำเสนอ เป็นต้



1) ซอฟต์แวร์ประมวลคำ(word processing software) เป็นซอฟต์แวร์ประยุกต์ใช้สำหรับการพิมพ์เอกสาร สามารถแก้ไข เพิ่ม แทรก ลบ และจัดรูปแบบเอกสารได้อย่างดี เอกสารที่พิมพ์ไว้จัดเป็นแฟ้มข้อมูล เรียกมาพิมพ์หรือแก้ไขใหม่ได้ การพิมพ์ออกทางเครื่องพิมพ์ก็มีรูปแบบตัวอักษรให้เลือกหลายรูปแบบ เอกสารจึงดูเรียบร้อยสวยงาม ปัจจุบันมีการเพิ่มขีดความสามารถของซอฟต์แวร์ประมวลคำอีกมากมาย ซอฟต์แวร์ประมวลคำที่นิยมอยู่ในปัจจุบัน เช่น วินส์เวิร์ด จุฬาจารึก โลตัสเอมิโปร







2)ซอฟต์แวร์ตารางทำงาน (spread sheet software) เป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการคิดคำนวณ การทำงานของซอฟต์แวร์ตารางทำงาน ใช้หลักการเสมือนมีโต๊ะทำงานที่มีกระดาษขนาดใหญ่วางไว้ มีเครื่องมือคล้ายปากกา ยางลบ และเครื่องคำนวณเตรียมไว้ให้เสร็จ บนกระดาษมีช่องให้ใส่ตัวเลข ข้อความหรือสูตร สามารถสั่งให้คำนวณตามสูตรหรือเงื่อนไขที่กำหนด ผู้ใช้ซอฟต์แวร์ตารางทำงานสามารถประยุกต์ใช้งานประมวลผลตัวเลขอื่น ๆ ได้กว้างขวาง ซอฟต์แวร์ตารางทำงานที่นิยมใช้ เช่น เอกเซล โลตัส

3)ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูล (data base management software) การใช้คอมพิวเตอร์อย่างหนึ่งคือการใช้เก็บข้อมูล และจัดการกับข้อมูลที่จัดเก็บในคอมพิวเตอร์ จึงจำเป็นต้องมีซอฟต์แวร์จัดการข้อมูล การรวบรวมข้อมูลหลาย ๆ เรื่องที่เกี่ยวข้องกันไว้ในคอมพิวเตอร์ เราก็เรียกว่าฐานข้อมูล ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูลจึงหมายถึงซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการเก็บ การเรียกค้นมาใช้งาน การทำรายงาน การสรุปผลจากข้อมูล ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูลที่นิยมใช้ เช่น เอกเซส ดีเบส พาราด็อก ฟ๊อกเบส






4)ซอฟต์แวร์นำเสนอ (presentation software) เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับนำเสนอข้อมูล การแสดงผลต้องสามารถดึงดูดความสนใจ ซอฟต์แวร์เหล่านี้จึงเป็นซอฟต์แวร์ที่นอกจากสามารถแสดงข้อความในลักษณะที่จะสื่อความหมายได้ง่ายแล้วจะต้องสร้างแผนภูมิ กราฟ และรูปภาพได้ ตัวอย่างของซอฟต์แวร์นำเสนอ เช่น เพาเวอร์พอยต์ โลตัสฟรีแลนซ์ ฮาร์วาร์ดกราฟิก





5)ซอฟต์แวร์จัดการด้านกราฟิกและมัลติมีเดีย  ซอฟต์แวร์จัดการด้านกราฟิกเป็นซอฟต์แวร์ที่ทำหน้าที่เหมือนกระดานหรือสมุดวาดเขียนที่ผู้ใช้สามารถสร้างภาพเขียนได้ และมีอุปกรณ์ที่ช่วยในการวาดรูป เช่น ปากกาช่วยวาดลายเส้น พู่กันระบายสี และยางลบช่วยลบลายเส้นหรือสีที่ไม่ต้องการได้นอกจากนี้สามารถนำแฟ้มข้อมูลที่เป็นรูปภาพที่ถ่ายโดยใช้กล้องถ่ายรูปดิจิตอลมาแก้ไขตกแต่งได้ โดยซอฟต์แวร์จะมีเครื่องมือที่สามารถปรับเปลี่ยนความเข้มของแสง ปรับเปลี่ยนความแตกต่างของสีวัตถุในภาพ และสามารถตัดแปะองค์ประกอบของภาพหลาย ๆ ภาพ มาสร้างเป็นภาพใหม่ได้เหมือนการสร้างศิลปะ นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนลักษณะของภาพ ลักษณะของสีให้มีพื้นสีแบบต่าง ๆ ได้ ซอฟต์แวร์จัดการด้านกราฟิกที่เป็นที่นิยม เช่น โปรแกรมโฟโทชอพ (PhotoShop) โปรแกรมเพนท์บรัช (Paint Brush) โปรแกรมเพนท์ชอพ (Paint Shop)ซอฟต์แวร์จัดการด้านกราฟิกบางโปรแกรม สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์นำเข้าสแกนเนอร์ เพื่อจัดการนำเข้าข้อมูล โดยแปลงข้อมูลรูปภาพให้เป็นข้อมูลแบบดิจิตอล และจัดเก็บข้อมูลในรูปของแฟ้มข้อมูลเพื่อนำมาแก้ไขต่อไป

แหล่งข้อมูลที่อ้างอิง :http://monthipka.blogspot.com/2016/03/applications-application-freeware.html


3.3 ภาพกิจกรรมการแสดงผลงานด้านธุรกิจที่ทำงานปัจจุบัน

แผนกฝึกอบรมมีกำหนดการจัดฝึกอบรมภายในขึ้นในเดือน เมษายน 2560

 หลักสูตร: 3Q6S
วันที่: 10 เมษายน 2017
เวลา: 9:00-04:00 (6 ชั่วโมง) และการแบ่งเวลากลางวัน (12:00 - 13.00 น)
ระดับ: ระดับทั้งหมด
สถานที่: ห้อง Traning
ลงทะเบียน: 08:50
เทรนเนอร์: K.Kamon Traiboon




แผนกฝึกอบรมมีกำหนดการจัดฝึกอบรมภายในขึ้นในเดือนกันยายน 2560

หลักสูตร : เทคนิคการให้คำปรึกษาในการปรับพฤติกรรรม
วันที่ฝึกอบรม : 6 พฤศจิกายน 2560
เวลา : 09.00 -16.00 น.( 6 ช.ม.) และพักเที่ยงเวลา 12.00 -13.00 น.
ระดับ : หัวหน้างานที่มีผู้ใต้บังคับบัญชา(Sub Line up)
สถานที่ : ห้องฝึกอบรม
วิทยากร : คุณกมล ไตรบุญ


แหล่งที่มาอ้างอิง : บริษัท นิเด็ค ค็อมโปเน็นท์ เทคโนโลยี ไทยแลนด์


                                                                                                                 

วันพุธที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

หน่วยที่ 2 ซอฟต์แวร์ประยุกต์ ( APPLICATION SOFTWARE )

2.1 ความหมายของซอฟต์แวร์ประยุกต์




ความหมายของซอฟต์แวร์ประยุกต์


            ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software) คือซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้น เพื่อประยุกต์กับงานที่ผู้ใช้ต้องการ เช่น ซอฟต์แวร์ประมวลคำ ซอฟต์แวร์จัดเก็บภาษี ซอฟต์แวร์สินค้าคงคลัง ซอฟต์แวร์ตารางทำงาน ซอฟต์แวร์กราฟิก ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูล เป็นต้น การทำงานใดๆ โดยใช้ซอฟต์แวร์ประยุกต์ จำเป็นต้องทำงานภายใต้สภาพแวดล้อมของซอฟต์แวร์ระบบด้วย ตัวอย่างเช่น ซอฟต์แวร์ประมวลคำต้องทำงานภายใต้ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการเอ็มเอสดอสหรือวินโดวส์ เป็นต้น

            ซอฟต์แวร์ประยุกต์ได้รับความนิยมใช้งานอย่างแพร่หลายในทุกวงการ ความนิยมส่วนหนึ่งมาจาก ขีดความสามารถของซอฟต์แวร์ประยุกต์นั้นๆ เพราะซอฟต์แวร์ที่ผลิตออกจำหน่าย ต่างพยายามแข่งขันกันหลายๆ ด้าน เช่น เรียนรู้และใช้งานได้ง่าย สนับสนุนให้ใช้กับเครื่องพิมพ์ได้ดี มีคู่มือการใช้ซอฟต์แวร์ที่อ่านเข้าใจง่าย ให้วิธีหรือขั้นตอนที่อธิบายไว้อย่างชัดเจน และมีระบบโอนย้ายข้อมูลเข้าออกกับซอฟต์แวร์อื่นได้ง่าย

ประเภทของซอฟต์แวร์ประยุกต์
อาจแบ่งได้เป็น 2 แบบใหญ่ๆ คือ ซอฟต์แวร์ใช้เฉพาะทางและซอฟต์แวร์สำเร็จ

1. ซอฟต์แวร์ใช้เฉพาะทาง
            เป็นโปรแกรมที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาสำหรับนำไปใช้งานเฉพาะด้านหรือในสาขาใดสาขาหนึ่งตามความต้องการของผู้ใช้ โดยที่ผู้เขียน คือ โปรแกรมเมอร์ (Programmer) ที่มีความสามารถในการเขียนโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ และต้องศึกษาทำความเข้าใจงานและรายละเอียดของการประยุกต์นั้นเป็นอย่างดี เช่น โปรแกรมช่วยจัดการด้านการเงิน โปรแกรมช่วยจัดการบริการลูกค้า ฯลฯ ตามปกติจะไม่ค่อยได้พบเห็นซอฟต์แวร์ประเภทนี้ในท้องตลาดทั่วไป แต่จะซื้อหาได้จากผู้ผลิตหรือตัวแทนจำหน่ายในราคาค่อนข้างสูงกว่าซอฟต์แวร์ที่ใช้งานทั่วไป
โครงสร้างของซอฟต์แวร์เฉพาะทางมักจะประกอบด้วย ฐานข้อมูลเพื่อใช้เก็บข้อมูลลูกค้าและระบบหลักของงาน ภายในซอฟต์แวร์ควรจะมีส่วนทำงานประมวลคำเพื่อใช้สร้างรายงาน ติดต่อโต้ตอบจดหมาย และการนัดหมายตามกำหนดการ ลักษณะของซอฟต์แวร์เฉพาะทางนี้ มีทั้งรูปแบบที่มีผู้ใช้งานคนเดียวหรือผู้ใช้งานได้พร้อมกันหลายคน
ในประเทศไทย มีการใช้ซอฟต์แวร์ประเภทใช้เฉพาะทางอยู่บ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นซอฟต์แวร์ที่บริษัทผู้ผลิตต่างประเทศได้ออกแบบมาเพื่อรองรับงานด้านธุรกิจ ในที่นี้ได้รวบรวมจัดประเภทไว้ดังนี้

1) ซอฟต์แวร์ระบบงานด้านบัญชี
ได้แก่ ระบบงานบัญชีเจ้าหนี้ บัญชีลูกหนี้ บัญชีสินทรัพย์ถาวรและค่าเสื่อมราคาสะสม บัญชีแยกประเภททั่วไป และบัญชีเงินเดือน

2) ซอฟต์แวร์ระบบงานจัดจำหน่าย
           ได้แก่ ระบบงานรับใบสั่งซื้อสินค้า ระบบงานบริหารสินค้าคงคลัง และระบบงานประวัติการขาย

3) ซอฟต์แวร์ระบบงานในโรงงานอุตสาหกรรม
          ได้แก่ ระบบงานกำหนดโครงสร้างผลิตภัณฑ์ การวางแผนกำลังการผลิต การคำนวณต้นทุนของงาน การประเมินผลงานของพนักงาน การวางแผนการผลิตหลัก การวางแผนความต้องการวัสดุ การควบคุมการทำงานภายในโรงงาน การกำหนดเงินทุนมาตรฐานสินค้า และการกำหนดขั้นตอนการผลิต

4) ซอฟต์แวร์อื่น ๆ
          ได้แก่ ระบบการสร้างรายงาน การบริหารการเงิน การเช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ และการเช่าซื้อรถยนต์

2. ซอฟต์แวร์สำเร็จ
           ในบรรดาซอฟต์แวร์ประยุกต์ที่มีใช้กันทั่วไป ซอฟต์แวร์สำเร็จ (package) เป็นซอฟต์แวร์ที่มีความนิยมใช้กันสูงมาก ซอฟต์แวร์สำเร็จเป็นซอฟต์แวร์ที่บริษัทพัฒนาขึ้น แล้วนำออกมาจำหน่าย เพื่อให้ผู้ใช้งานซื้อไปใช้ได้โดยตรง ไม่ต้องเสียเวลาในการพัฒนาซอฟต์แวร์อีก ซอฟต์แวร์สำเร็จที่มีจำหน่ายในท้องตลาดทั่วไป และเป็นที่นิยมของผู้ใช้มี 5 กลุ่มใหญ่ ได้แก่

1) ซอฟต์แวร์ประมวลคำ(word processing software)
          เป็นซอฟต์แวร์ประยุกต์ใช้สำหรับการพิมพ์เอกสาร สามารถแก้ไข เพิ่ม แทรก ลบ และจัดรูปแบบเอกสารได้อย่างดี เอกสารที่พิมพ์ไว้จัดเป็นแฟ้มข้อมูล เรียกมาพิมพ์หรือแก้ไขใหม่ได้ การพิมพ์ออกทางเครื่องพิมพ์ก็มีรูปแบบตัวอักษรให้เลือกหลายรูปแบบ เอกสารจึงดูเรียบร้อยสวยงาม ปัจจุบันมีการเพิ่มขีดความสามารถของซอฟต์แวร์ประมวลคำอีกมากมาย ซอฟต์แวร์ประมวลคำที่นิยมอยู่ในปัจจุบัน เช่น วินส์เวิร์ด จุฬาจารึก โลตัสเอมิโปร

2)ซอฟต์แวร์ตารางทำงาน (spread sheet software)
            เป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการคิดคำนวณ การทำงานของซอฟต์แวร์ตารางทำงาน ใช้หลักการเสมือนมีโต๊ะทำงานที่มีกระดาษขนาดใหญ่วางไว้ มีเครื่องมือคล้ายปากกา ยางลบ และเครื่องคำนวณเตรียมไว้ให้เสร็จ บนกระดาษมีช่องให้ใส่ตัวเลข ข้อความหรือสูตร สามารถสั่งให้คำนวณตามสูตรหรือเงื่อนไขที่กำหนด ผู้ใช้ซอฟต์แวร์ตารางทำงานสามารถประยุกต์ใช้งานประมวลผลตัวเลขอื่น ๆ ได้กว้างขวาง ซอฟต์แวร์ตารางทำงานที่นิยมใช้ เช่น เอกเซล โลตัส

3)ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูล (data base management software)

            การใช้คอมพิวเตอร์อย่างหนึ่งคือการใช้เก็บข้อมูล และจัดการกับข้อมูลที่จัดเก็บในคอมพิวเตอร์ จึงจำเป็นต้องมีซอฟต์แวร์จัดการข้อมูล การรวบรวมข้อมูลหลาย ๆ เรื่องที่เกี่ยวข้องกันไว้ในคอมพิวเตอร์ เราก็เรียกว่าฐานข้อมูล ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูลจึงหมายถึงซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการเก็บ การเรียกค้นมาใช้งาน การทำรายงาน การสรุปผลจากข้อมูล ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูลที่นิยมใช้ เช่น เอกเซส ดีเบส พาราด็อก ฟ๊อกเบส

4)ซอฟต์แวร์นำเสนอ (presentation software)

            เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับนำเสนอข้อมูล การแสดงผลต้องสามารถดึงดูดความสนใจ ซอฟต์แวร์เหล่านี้จึงเป็นซอฟต์แวร์ที่นอกจากสามารถแสดงข้อความในลักษณะที่จะสื่อความหมายได้ง่ายแล้วจะต้องสร้างแผนภูมิ กราฟ และรูปภาพได้ ตัวอย่างของซอฟต์แวร์นำเสนอ เช่น เพาเวอร์พอยต์ โลตัสฟรีแลนซ์ ฮาร์วาร์ดกราฟิก

5)ซอฟต์แวร์สื่อสารข้อมูล (data communication software)

            ซอฟต์แวร์สื่อสารข้อมูลนี้หมายถึงซอฟต์แวร์ที่จะช่วยให้ไมโครคอมพิวเตอร์ติดต่อสื่อสารกับเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นในที่ห่างไกล โดยผ่านทางสายโทรศัพท์ ซอฟต์แวร์สื่อสารใช้เชื่อมโยงต่อเข้ากับระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เช่น อินเทอร์เน็ต ทำให้สามารถใช้บริการอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ สามารถใช้รับส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ใช้โอนย้ายแฟ้มข้อมูล ใช้แลกเปลี่ยนข้อมูล อ่านข่าวสาร นอกจากนี้ยังใช้ในการเชื่อมเข้าหามินิคอมพิวเตอร์หรือเมนเฟรม เพื่อเรียกใช้งานจากเครื่องเหล่านั้นได้ ซอฟต์แวร์สื่อสารข้อมูลที่นิยมมีมากมายหลายซอฟต์แวร์ เช่น โปรคอม ครอสทอล์ค เทลิก

แหล่งที่มาอ้างอิง:https://sites.google.com/site/5303103304peer/khwam-hmay-khxng-sxftwaer-prayukt

2.2 ประเภทของซอฟต์แวร์

ประเภทของซอฟต์แวร์

ซอฟต์แวร์แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

1. ซอฟต์แวร์ระบบ

2. ซอฟต์แวร์ประยุกต์





1. ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software หรือ Operating Software : OS)


หมายถึงโปรแกรมที่ทำหน้าที่ประสานการทำงาน ติดต่อการทำงาน ระหว่างฮาร์ดแวร์กับซอฟต์แวร์ประยุกต์เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้ Software ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำหน้าที่ในการจัดการ ระบบ ดูแลรักษาเครื่อง การแปลภาษาระดับต่ำหรือระดับสูงให้เป็นภาษาเครื่องเพื่อให้เครื่องอ่านได้ เข้าใจ





ซอฟต์แวร์ระบบ แบ่งได้ 4 ชนิด ดังนี้

1.1 ระบบปฏิบัติการ (Operating System) หมายถึง ชุดโปรแกรมที่อยู่ระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ประยุกต์มีหน้าที่ควบคุมการ ปฏิบัติงานของฮาร์ดแวร์ และสนับสนุนคำสั่งสำหรับควบคุมการทำงานของฮาร์ดแวร์ให้กับซอฟต์แวร์ประยุกต์ เช่น Windows XP , DOS , Linux , Mac OS X

1.2 ยูทิลิตี้ (Utility Program) เป็นโปรแกรมที่ทำหน้าที่เพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ ทำให้เครื่องทำงานง่ายขึ้นเร็วขึ้น และการป้องกันการรบกวนโดยโปรแกรมที่ไม่พึงประสงค์ เช่น โปรแกรมป้องกันไวรัส , โปรแกรม Defrag เพื่อจัดเรียงข้อมูลบนฮาร์ดดิสก์ใหม่ ทำให้การอ่านข้อมูลเร็วขึ้น , โปรแกรมยกเลิกการติดตั้งโปรแกรม Uninstall Program , โปรแกรมบีบอัดไฟล์ (WinZip-WinRAR)เพื่อทำให้ไฟล์มีขนาดเล็กลง ,โปรแกรมการสำรองข้อมูล(Backup Data)

1.3 ดีไวซ์ไดเวอร์ (Device Driver หรือ Driver) เป็นโปรแกรมที่ทำหน้าที่ติดต่อกับคอมพิวเตอร์ในส่วนการรับเข้าและการส่งออก ของแต่ละอุปกรณ์ โดยปกติโปรแกรม windows มีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์จะมีไดเวอร์ติดตั้งมาให้แล้วโดยไม่ต้อง ทำการติดตั้งไดเวอร์เอง เช่น ไดเวอร์สำหรับเมาส์ ,ไดเวอร์คีย์บอร์ด, ไดเวอร์สำหรับการใช้ USB Port , ไดเวอร์เครื่องพิมพ์ แต่ถ้าอุปกรณ์ใดไม่สามารถใช้งานร่วมกับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ก็ต้องหาไดเวอร์มาติดตั้งเพื่อให้สามารถใช้งานได้ ซึ่งต้องเป็นไดเวอร์ที่พัฒนามาของแต่ละบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์

1.4 ตัวแปลภาษา (Language Translator) คือโปรแกรมที่ทำหน้าที่แปลภาษาระดับต่ำหรือระดับสูงเพื่อให้เครื่อง คอมพิวเตอร์เข้าใจว่าต้องการให้ทำอะไร เช่น เมื่อโปรแกรมเมอร์ได้เขียนโปรแกรมเสร็จโดยเขียนในลักษณะภาษาระดับต่ำ (Assenbly) หรือภาษาระดับสูง (โปรแกรมภาษา C) เสร็จก็ต้องมีตัวแปลภาษาเพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์อ่านเข้าใจ เพราะเครื่องคอมพิวเตอร์จะเข้าใจเฉพาะตัวเลข 0 กับ ตัวเลข 1 เท่านั้น 

ซอฟต์แวร์ประยุกต์แบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้


2.1 ซอฟต์แวร์สำหรับงานเฉพาะด้าน เป็น Software ที่ใช้สำหรับงานเฉพาะด้าน เช่น Software สำหรับงานธนาคารการฝากถอนเงิน Software สำหรับงานทะเบียนนักเรียน ซอฟต์แวร์คิดภาษี ซอฟต์แวร์การให้บริการร้าน Seven ฯลฯ

2.2 ซอฟต์แวร์สำหรับงานทั่วไป เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับงานทั่วไป โดยในซอฟต์แวร์ 1 ตัวมีความสามารถในการทำงานได้หลายอย่าง เช่น ซอฟต์แวร์งานด้านเอกสาร (Microsoft Word ) มีความสามารถในการสร้างงานเอกสารต่าง ๆ จัดทำเอกสารรายงาน จัดทำแผ่นพับ จัดทำหนังสือเวียน จัดทำสื่อสิ่งพิมพ์

แหล่งที่มาอ้างอิง :http://www.raj6.ac.th/e-com/p6-2.html

2.3 วิธีการเลือกซอฟต์แวร์

การเลือกใช้ซอฟต์แวร์

        ซอฟต์แวร์มีหลายประเภทด้วยกัน ดังนั้นการเลือกใช้ซอฟต์แวร์จึงต้องพิจารณาให้เหมาะสม ข้อควรพิจารณาในการเลือกใช้ซอฟต์แวร์ เช่นหลักการเลือกใช้ซอฟต์แวร์ให้เหมาะสมกับงาน

         ซอฟต์แวร์ประเภทซอฟต์แวร์ประยุกเป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับคอมพิวเตอร์เพราะช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงาน โดยมีหลักการเลือกซอฟต์แวร์ดังนี้

1.ความสามารถในการทำงาน
         เป็นหลักการในอันดับต้นที่ผู้ใช้ซอฟต์แวร์จะต้องเลือกเพื่อให้ซอฟต็แวร์ที่ติดตั้งนั้น สามารถตอบสนองต่อการทำงาน สามารถช่วยเหลือหรืออำนวยความสะดวก และเกิดประสิทธิ์ภาพในการทำงานมากที่สุด

2.การติดต่อกับผู้ใช้
       รูปแบบของซอฟต์แวร์ต้องออกแบบมาเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายต่อการทำงาน เช่น เป็นรูปแบบไอคอน เพื่อง่ายต่อการทำงานมากขึ้น เป็นต้น

3.ความเข้ากันได้
         ความเข้ากันได้ของซอฟต์แวร์สำเร็จรูป เป็นหลักการที่ต้องพิจารณาให้ละเอียดรอบคอบอย่างเหมาะสม เนื่องจากอาจทำให้เกิดการทำงานไม่เต็มที่ หรือส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์ได้ มีข้อต้องคำนึง 2 ส่วนดังนี้
- ความเข้ากันได้ของฮาร์ดแวร์
ต้องคำนึงถึงความเป็นไปได้ในการใช้งานให้คู่กันไปของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ คือ ต้องเข้ากันได้ ควรเลือกให้สัมพันะ์กันมากที่สุด เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุด
- ความเป็นกันได้ของซอฟต์แวร์
คำนึงถึงความเข้ากันได้ของระบบปฏิบัติการซอฟต์แวร์ ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ ความเข้ากันได้ของรุ่นคอมพิวเตอร์ ตลอดจนความเข้ากันได้ของซอฟต์แวร์ด้วยกันเอง

4.การติดตั้งและการดูแลรักษา
          ซอฟต์แวร์ทั่วไปจะต้องติดตั้งง่าย มีระบบการตรวจสอบการติดตั้ง ระบบช่วยเหลือ เพื่อความสะดวกในการใช้งานของผู้ใช้เองด้วย

5.กลุ่มผู้ใช้
หากมีผู้ใช้มากๆก็เป็นการรับรองคุณภาพได้ว่า ของเขาดีจริง จึงมีคนใช้มาก

การเลือกใช้ซอฟต์แวร์ให้เหมาะสมกับทรัพยากร

          การเลือกใช้ซอฟต์แวร์ให้เหมาะสมกับทรัพยากรหรือฮาร์ดแวร์ที่มีอยู่ต้องพิจารราคุณลักษณะขั้นต่ำของคอมพิวเตอร์ที่จำเป็นต้องมีเพื่อให้สามารถประมวลผลซอฟต์แวร์นั้นได้ โดยคอมพิวเตอร์ที่จพติดตั้งซอฟต์แวร์จะต้องมีคุณลักษณะไม่ต่ำไปกว่าที่ผู้ผลิตซอฟต์แวร์กำหนดไว้ คุณลักษณะในการพิจารณา เช่น ความเร็วของซีพียู ความจุของแรม ความละเอียดของการ์ดแสดงผล

การเลือกใช้ซอฟต์แวร์ให้เหมาะสมกับงบประมาณ

           หากมีงบประมาณไม่เพียงพออาจเลือกใช้ซอฟต์แวร์ที่มีราคาต่ำกว่าหรือไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกัน เช่น กา้างอิงิรใช้วอฟต์แวร์แบบรพัสเปิดแทนซอฟต์แวร์ที่มีราคาแพง

การเลือกใช้ฟต์แวร์โดยไม่ละเมิอลิขสิทธิ์

            เพื่อเป็นการสนับสนุนให้มีผู้ผลิตซอฟต์แวร์ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ถ้าต้องใช้ซอฟต์แวร์ที่มีลิขสิทธิ์ต้องจัดซื้อให้ถูกต้องตามกฎหมาย

           ซอฟต์แวร์อาจสามารถหาซื้อได้จากร้านค้าที่ขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์โดยมักจะอยู่ในรูปแบบของแผ่นซีดี หรือแผ่นดีวีดีที่บรรจุโปรแกรม หรืออาจดาวน์โหลดซอฟตืแวร์ที่ต้องการจากอินเทอร์เน็ตไม่ว่าจะได้ซอฟต์แวร์มาด้วยวิธีการก็ตาม ซอฟต์แวร์ดังกล่าวจะถูกติดตั้งลงในคอมพิวเตอร์เสียก่อน จึงสามารถเรียกใช้เพื่อให้ประมวลผลตามหน้าที่ของซอฟต์แวร์นั้นๆได้


แหล่งที่มาอ้างอิง :https://sites.google.com/.../bth-thi-2-khwam-ru-phun-than-thang-khxmphiwtexr-1

2.4 ตัวอย่างซอฟต์แวร์ประยุกต์ช่วยในการทำงานด้านธุรกิจ

        ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (application software) คือ ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมซึ่งเขียนขึ้นเพื่อการทางานเฉพาะอย่างที่เราต้องการ การทำงานร่วมกับเครื่องคอมพิวเตอร์ในงานเฉพาะด้าน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการควบคุมระบบ ผู้ใช้จำเป็นต้องเลือกหาซอฟต์แวร์ให้ตรงตามความต้องการ นั้นๆ โดยเฉพาะ เช่น การจัดพิมพ์รายงาน นำเสนองาน จัดทำบัญชี ตกแต่งภาพ ออกแบบเว็บไซต์ เป็นต้น นอกจากนั้นอาจต้องคำนึงถึงงบประมาณในการจัดหาซอฟต์แวร์มาใช้ด้วยว่ามีเพียงพอ หรือไม่เพียงใด ซึ่งซอฟต์แวร์ประยุกต์สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ซอฟต์แวร์ประยุกต์ ทั่วไป และซอฟต์แวร์ประยุกต์เฉพาะงาน

ซอฟต์แวร์ประยุกต์ทั่วไป
ซอฟต์แวร์ประยุกต์ทั่วไป (general  purpose  software)  เป็นซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับงานทั่วไป ไม่เฉพาะเจาะจง ผู้ใช้จึงต้องเลือกซอฟต์แวร์ให้เหมาะสมกับ ลักษณะงาน เช่น การจัดพิมพ์รายงาน การสร้างตารางทำงาน การนำเสนอผลงาน เป็นต้น





1) ซอฟต์แวร์ประมวลผลคำ    (word processing  software)เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้ ในการจัดทาเอกสารทุกชนิด  เช่น  รายงาน  จดหมายเวียน  หนังสือ  ใบปลิวส่งพิมพ์ต่างๆ เป็นต้น  สามารถแก้ไข เพิ่ม  แทรก ลบ และจัดรูปแบบเอกสารได้อย่างดี เอกสารที่พิมพ์ไว้จัดเก็บ เป็นแฟ้มข้อมูล  และสามารถนำมาแก้ไขใหม่ได้  ซอฟต์แวร์ประมวลผลคำที่นิยมใช้ในปัจจุบัน เช่น Microsoft Word, PageMaker, Corel Draw เป็นต้น





2) ซอฟต์แวร์ตารางทำงาน (spreadsheet software)เป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการ คำนวณ วิเคราะห์ตัวเลข เพื่อใช้งานในด้านการเงิน บัญชี สถิติ คณิตศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์ การทำงานของซอฟต์แวร์ตารางทำงานประกอบด้วยตารางขนาดใหญ่สำหรับใส่ตัวเลข ข้อความ สูตรการคำนวณ ซึ่งมีเครื่องคำนวณเตรียมไว้สำเร็จ สามารถสั่งให้คำนวณตามสูตรหรือเงื่อนไขที่ กำหนด ผู้ใช้สามารถประยุกต์ใช้งานประมวลผลตัวเลขอื่นๆ ได้กว้างขวาง ซอฟต์แวร์ตารางทำงาน ที่นิยมใช้ เช่น Microsoft Excel, Open Office Calcในโปรแกรมชุด Pladao Office เป็นต้น






3) ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูล (database management software) การใช้ งานคอมพิวเตอร์อย่างหนึ่ง คือ การใช้เก็บ ข้อมูลและจัดการกับข้อมูลที่จัดเก็บอยู่ในเครื่อง คอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลต่างๆ เหล่านั้น เรียกว่า ฐานข้อมูล ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีซอฟต์แวร์ จัดการฐานข้อมูล เพื่อช่วยในการจัดเก็บเรียก ค้นทำงาน และสรุปผลข้อมูลในเครื่อง คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูลที่นิยมใช้ เช่น Dbase, Paradox, FoxBASE, MicrosoftAccess เป็นต้น





4) ซอฟต์แวร์นำเสนอ (presentation software) เป็นโปรแกรมที่ใช้นำเสนอ ข้อมูลด้วยระบบคอมพิวเตอร์ สร้างเอกสารที่ประกอบไปด้วยตัวอักษรรูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว โดยแสดงออกมาทีละรายการ รวมทั้งยังสามารถใส่เสียงประกอบการนำเสนอได้ สามารถกำหนด ระยะเวลาการแสดงและกำหนดจุดเชื่อมโยงไปยังหน้าที่ต้องการได้ เพื่อใช้ประกอบการบรรยายและการเสนอผลงาน ซอฟต์แวร์นำเสนอที่นิยมใช้ เช่น Microsoft PowerPoint Open Office Impress,Pladao Office เป็นต้น




5) ซอฟต์แวร์ทางด้านกราฟฟิกและมัลติมีเดีย (graphics and multimedia software) เป็นกลุ่มซอฟต์แวร์ประยุกต์ที่พัฒนาข้นสำหรับจัดการงานทางด้านกราฟิกและมัลติมีเดียมีความสามารถเสมือนเป็นผู้ช่วยในการออกแบบชิ้นงานเกี่ยวกับการตกแต่งภาพ วาดภาพปรับเสียง ตัดต่อภาพเคลื่อนไหว รวมถึงการสร้างและออกแบบพัฒนาเว็บไซต์ ซอฟต์แวร์ทาง ด้านกราฟิกและมัลติมีเดีย เช่น Adobe InDesign, Adobe Illustrator, Adobe Photoshop Macromedia Dreamweaver เป็นต้น





6) ซอฟต์แวร์การใช้งานบนเว็บไซต์และการติดต่อสื่อสาร (web site and communications software) การเติบโตของเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทำให้มีผู้พัฒนาโปรแกรมเพื่อใช้งานเฉพาะอย่างเพิ่มมากขึ้น มีทั้งการตรวจเช็คอีเมล์ เข้าเว็บไซต์การจัดการและดูแลเว็บไซต์ส่งข้อความติดต่อส่อสาร รวมไปถึงการประชุมทางไกลผ่านเครือข่าย ตัวอย่างซอฟต์แวร์การใช้งานบนเว็บไซต์ และการติดต่อสื่อ1สาร เช่น Microsoft Outlook, Microsoft Net meeting, MSN Messenger/Windows Messenger เป็นต้น 

แหล่งที่มาอ้างอิง : http://tuktun.wixsite.com/arirat-noopan/about3

     








หน่วยที่ 1 คอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์

1.1 ความหมายของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์    ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ความหมายของฮาร์ดแวร์ (Hardware)หมายถึง อุปกรณ์ , ชิ้นส่วน , วัสด...